ข่าวสาร
ลักษณะของรถโดยสารและรถที่ใช้ในการขนส่งสัตว์หรือสิ่งของ
การขนส่งสมัยใหม่ด้วยเครื่องจักรกลเกิดขึ้นภายหลังจากการนำเครื่องจักรไอน้ำมาใช้ เป็นต้นกำลังของเรือและรถไฟ ซึ่งต้องมีการใช้ถ่านหินและฟืนเป็นเชื้อเพลิง ต่อมามีการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายใน และนำมาใช้กับรถยนต์ เครื่องยนต์สันดาปภายใน มีความสะดวกและเครื่องยนต์มีขนาดเล็ก จึงมีการนำไปใช้กับเรือและรถไฟการใช้เครื่องจักรไอน้ำขับเคลื่อนยานพาหนะจึงค่อย ๆ หมดไป
ยานพาหนะในปัจจุบันนี้จะมีขนาดใหญ่บรรทุกคนและสินค้าได้มาก และยังมีความรวดเร็วและเชื่อถือได้อีกด้วย รถยนต์ รถบรรทุก และรถโดยสาร มีความได้เปรียบในการเข้าถึงชุมชนและพื้นที่ ได้ดีกว่ารูปแบบการขนส่งอื่น ไม่ว่าจะเป็นทางน้ำหรือทางรางก็ตาม ถึงแม้ขนาดการบรรทุกของรถยนต์ รถบรรทุก และรถโดยสาร มีปริมาณไม่มากเท่ากับ การขนส่งด้วยเรือ หรือ รถไฟ แต่ก็ทำให้มีความได้เปรียบทางเศรษฐกิจสำหรับการให้บริการระยะทางสั้น หรือจะเป็นการขนส่งแบบ Door to Door ก็สามารถทำได้ ด้วยเหตุนี้การขนส่งผ่านทางรถยนต์ รถบรรทุก และรถโดยสาร จึงส่วนแบ่งในด้านการให้บริการไปมิใช่น้อย ในขณะที่เรือและรถไฟมีความได้เปรียบด้านต้นทุน เมื่อขนส่งในระยะทางไกลและขนปริมาณมาก แต่ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง และสุดท้ายก็จะต้องมีการขนส่งผ่านทางถนนอยู่ดี สำหรับการกระจายสินค้าไปยังปลายทางหรือผู้รับมอบสินค้าอยู่ดี
เมื่อการขนส่งด้วยรถยนต์ รถบรรทุก และรถโดยสาร นั้นมีปริมาณมาก รัฐจึงจำเป็นต้องเข้ามาควบคุม กำกับดูแล ทั้งในส่วนของ คุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัยในการขนส่ง ดังนั้นเราในฐาน บุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง หรือที่เราคุ้นชินกับคำว่า TSM ซึ่งย่อมากจาก (Transport Safety Manager) ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการ ควบคุม กำกับดูแล เรื่องความปลอดภัยในการขนส่งให้แก่ผู้ประกอบการขนส่ง ดังนั้น วันนี้ทาง NET จะพามารู้จักกับลักษณะของรถที่จะได้รับอนุญาตให้ใช้ในการประกอบการขนส่ง
โดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2524) กำหนดลักษณะของรถที่จะได้รับอนุญาตให้ใช้ใน การประกอบการขนส่ง มี 3 ลักษณะคือ
***หมายเหตุ รายละเอียดมาตรฐานและลักษณะรถ สามารถดูได้จากกฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2524)